Swarovski (สวารอฟสกี้) แบรนด์คริสตัลชั้นนำของโลก มีโลโก้เอกลักษณ์เป็นหงส์สะดุดตา
แต่มีสิงหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือ แบรนด์สวารอฟสกี้ไม่ได้มีชื่อเสียงด้านการผลิตคริสตัลอย่างเดียว แต่ยังยังผลิตสินค้าอีกหลายประเภท เช่น ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ นาฬิกาข้อมือ แว่นตา พวงกุญแจ กระเป๋า และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยมีจุดเด่นคือเพชรหรือคริสตัลสวารอฟสกี้เป็นสิ่งประดับอยู่บนผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ว่าแต่คุณเคยสงสัยกันไหมว่าสวารอฟสกี้ทำมาจากวัสดุอะไร? ทำไมสวาฟรอฟสกี้ถึงมีราคาที่แพง? เรามาหาคำตอบกัน
ไขข้อข้องใจทำไม ‘สวารอฟสกี้’ ถึงแพง
ก่อนอื่นต้องเกริ่นถึงประวัติความเป็นมาของแบรนด์สวารอฟสกี้ก่อน แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุค 80 โดยชาวโบฮีเมีย ชื่อนาย Daniel Swarovski ย้ายถิ่นฐานมาตั้งหลักที่เมืองวัทเทนส์ แคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นคนมีความสามารถเกี่ยวกับงานประดิษฐ์และงานฝีมือเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นคนที่มีความใฝ่รู้ด้านเทคโนโลยีสูง
เขาเป็นคนที่นำเอานวัตกรรมอุตสหกรรมการเจียระไนคริสตัลมาเป็นเครื่องประดับ จิวเวอร์รี่ และของขวัญต่าง ๆ เข้ามาให้ออสเตรียเป็นคนแรกในสมัยนั้น ผลงานคริสตัลของเขาได้ทำเอาคนทั่วทั้งออสเตรียสะดุดตาและชื่นชอบอย่างมาก จนเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็วนับแต่นั้นมา ปัจจุบันผลงานของเขาก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์คริสตัลที่ดีระดับโลกไปแล้ว
อะไรที่ทำให้คริสตัลของเขาโดดเด่นได้ขนาดนี้? แน่นอนว่าจุดเด่นที่เรารู้ ๆ กันดีก็คือ คริสตัลที่ไม่เหมือนใคร คริสตัลของสวารอฟสกี้จะมีความแวววับ มีการเล่นแสงอย่างสวยงามเวลาที่ถูกแสงตกกระทบ หรืออาจสวยแวววาวเหมือนเพชรเลยก็ว่าได้ แก้วที่สวารอฟสกี้เลือกใช้ในการผลิตก็ไม่ใช่แค่แก้วหรือเศษแก้วธรรมดาทั่วไป
แต่จะเป็นแก้วที่มีคุณภาพสูงมีสารตะกั่วถึง 32% ซึ่งมากกว่าค่ามาตราฐานถึง 24 % บางครั้งก็ใช้แก้วที่มีส่วนผสมของธาตุโปแตช ปูนขาว ซิลิก้า ที่มีเนื้อละเอียดและทนทานกว่าแก้วทั่วไป และแก้วที่เลือกต้องมีการหักเหของแสงได้ดีที่สุดด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้ ในปี 2012 ทางแบรนด์ได้ค้นพบสูตรวิธีการผลิตใหม่ที่เรียกว่า Advanced Crystal ที่มีสารตะกั่วของแก้วเหลือแค่ 0.009% แต่ยังมีความแข็งแรง ทนทาน และแวววาวเหมือนเดิม
และอีกสิ่งหนึ่งที่คุณอาจจะไม่รู้ คือสวารอฟสกี้ได้ผลิตมุกแก้ว หรือ ไข่มุกสวารอฟสกี้ด้วย ซึ่งไม่ใช่มุกที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ แต่เป็นมุกที่สวารอฟสกี้ผลิตขึ้นมาเองเช่นกัน โดยการขัดเงาเคลือบผิวมุกเป็นอย่างดี ทำให้ได้มุกที่ทนทานไม่แพ้กับไข่มุกธรรมชาติ ทนแดด ทนฝน ทนเหงื่อ และสารจากแอลกอฮอล์ได้อย่างดี
มุกแก้วสวารอฟสกี้จึงเป็นมุกเกรดเอที่นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องประดับ รวมไปถึงสินค้นชนิดอื่น ๆ ของสวารอฟสกี้ที่ล้วนหรูหราส่องประกายราวกับเพชร จึงไม่แปลกที่สวารอฟสกี้จะมีราคาแพง
ต่อกับคำถามที่ว่า….สวารอฟสกี้แพงเพราะดีไซน์จริงไหม? แน่นอนว่าทุกดีไซน์บนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่สวารอฟสกี้ผลิตมีดีไซน์งานที่สวย ดูหรู ทันสมัย และประณีต พร้อมตกแต่งประดับด้วยคริสตัลจากสวารอฟสกี้เสมอ ทำให้ราคาสินค้านั้นมีมูลค่าที่สูงขึ้นไปอีก แต่ก็ขึ้นอยู่ด้วยว่าสินค้าเป็นสินค้าอะไร ถ้าเป็นสินค้าเครื่องประดับ
แน่นอนว่าต้องมีราคาแพงกว่าสินค้าประเภทอื่น เพราะเครื่องประดับถือเป็นสินค้าขายดีต้น ๆ หรือสินค้าหลัก ๆ ของแบรนด์ก็ว่าได้ ที่ต้องมีความใส่ใจในคุณภาพและขั้นตอนการผลิตเช่นเดียวกับเม็ดคริสตัล ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ดีไซน์เครื่องประดับจากสวารอฟสกี้นั้นจะมีราคาแพงกว่าเครื่องประดับทั่วไป
