การใช้แตงโมบำรุงผิวหน้าให้ขาวใส

วิธีทําให้ผิวขาวอย่างไรให้ได้ผล

การบำรุงผิวหน้าด้วยแตงโม ไม่ได้เป็นอะไรที่ใหม่ เพราะไม่เพียงแตงโมที่สามารถนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้ ยังมีผลไม้อีกหลายอย่างที่มีสรรพคุณช่วยรักษาผิวหน้าได้เป็นอย่างดี และก็มีผลไม้หลายชนิดที่สาวๆ นิยมนำมาทำเป็นสครับ และอีกหลายชนิดมีสรรพคุณบำรุงผิวไม่แพ้เครื่องสำอางค์ยี่ห้อดังๆ ราคาแพงๆ

ซ้ำยังหาได้ง่ายในบ้านเมืองเราแตงโม ก็เป็นอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นผลไม้ที่น่ารับประทานแล้ว “แตงโม” ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ชุ่มชื่นอีกด้วย เคล็ดลับสำหรับผิวสวย ด้วยแตงโมมาฝากกัน

บำรุงผิวหน้าด้วยแตงโมก่อนอื่นต้องหาอุปกรณ์ จำพวกผ้าขาวบาง ที่มีขนาดพอประมาณ 1 ผืน เพื่อนำมารองรับชิ้นแตงโม และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ ผลแตงโม จะมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการ ที่เหลือยังเอาไว้รับประทานได้อีกด้วย

การใช้แตงโมบำรุงผิวหน้าให้ขาวใส

วิธีทำก็คือ เฉือนเนื้อแตงโม โดยคัดเฉพาะที่เป็นเนื้อในสุด ให้เป็นชิ้นบาง ๆ พอประมาณ อย่านำเนื้อแตงโมที่อยู่ใกล้ชิดกับเปลือก เนื่องจากเนื้อส่วนนี้จะมีความเข้มข้นของกรดอยู่พอประมาณ และมีความแข็งไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ เมื่อได้ชิ้นแตงโมที่ฝานบางๆ แล้ว นำมาวางไว้บนผ้าขาวบางที่เตรียมไว้ จากนั้นนำมาวางปิดลงบนใบหน้าให้ทั่ว (แบบให้ชิ้นแตงโมติดกับผิวหน้า) หากไม่ต้องการใช้ผ้าขาวบาง ก็ไม่ว่ากัน สามารถนำชิ้นแตงโมมาวางบนผิวหน้าได้เลย ระวังน้ำที่มีจากผลไม้ จะเยิ้มทั่วหน้าด้วย ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ระวังมดขึ้นหน้าด้วยนะจ๊ะ

วิธีทําให้ผิวขาวอย่างไรให้ได้ผล

สิ่งที่ได้จากการบำรุงผิวหน้าด้วยแตงโมนั้น นอกจากชิ้นแตงโมจะมีความเย็นในตัวเองอยู่แล้ว ช่วยผ่อนคลายผิวด้านนอกให้สดชื่น สารสีแดงจากแตงโม ที่เรียกว่า lycopene ที่มีแอนตี้ออกซิเดนท์ นอกจากช่วยในการบำรุงหัวใจ รวมถึงมะเร็งแล้ว ยังสามารถดูดซับความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ที่จะช่วยควบคุมระบบการไหลเวียนของโลหิตในบริเวณผิวหน้าให้เป็นปกติ ช่วยให้รูขุมขนมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื่น อีกทั้งในน้ำแตงโม มีโมเลกุลของน้ำตาลอยู่พอประมาณ รวมทั้งกรดอะมิโนอีกเล็กน้อย ช่วยในการบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี สาวๆ ลองนำไปปฏิบัติตามกันได้ เพื่อผิวหน้าที่สดใสและชุ่มชื่น

ขอบคุณข้อมูลการใช้แตงโมบำรุงผิวหน้าให้ขาวใสดีๆ จาก เคล็ดลับความสวย สุขภาพดี

share on: